ถึงเจ้าของธุรกิจทุกท่าน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบัน โลกออนไลน์มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนเราอย่างมาก โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของโทรศัพท์มือถือที่สามารถเข้าถึง Internet ได้ตลอดเวลา การทำธุรกิจก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค เราจึงเห็นร้านค้าที่ก้าวเข้าสู่โลก E-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) กันมากขึ้น การศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์และกลยุทธ์การตลาดในการโปรโมทสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้สามารถขายสินค้าและเอาชนะคู่แข่งที่มีจำนวนมากได้
ถ้าธุรกิจของคุณสามารถมีการซื้อขายได้ผ่านเว็บไซต์ สิ่งที่คุณควรจะต้องใส่ใจในการวางแผน และทำเพิ่มเติมก็คือ ทำอย่างไรให้คนสามารถซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายที่สุด ผ่านระบบอัตโนมัติในเว็บไซต์
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากสำหรับทั้งผู้บริโภคและเจ้าของธุรกิจ เพราะเว็บไซต์เกือบทั้งหมดในโลกนี้ ไม่ได้ถูกอกแบบและปรับแต่งมาเพื่อเน้นสร้างยอดขาย (Conversion) ตั้งแต่แรก
นักออกแบบเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ หรือในแง่ของการทำอย่างไร ให้ลูกค้ารู้สึกตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และรวดเร็วขึ้น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นหายนะของการมีเว็บไซต์ E-commerce ที่ซับซ้อนและยากต่อการปิดการขายให้กับธุรกิจ
ในทางกลับกันถ้าเกิดเว็บไซต์ของธุรกิจคุณถูกปรับแต่งให้ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ธุรกิจคุณจะสามารถสร้างยอดขายได้ อย่างอัตโนมัติและต่อเนื่องและสร้างความประทับใจให้กับทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า (ในรูปแบบของความสะดวกและรวดเร็ว ในการสั่งซื้อสินค้า) และบริษัท (ในรูปแบบของรายได้ที่เพิ่มขึ้น) ซึ่ง Crossover.Lab จะขอแนะนำวิธีที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้นด้วยกลยุทธ์เหล่านี้
ในความหมายภาษาไทย ก็คือ “คำกระตุ้นการตัดสินใจ” (หรือเรียกสั้นๆว่า CTA) ถ้าหากคุณเคยใช้งานเว็บไซต์ Amazon คุณคงจะคุ้นเคยกับปุ่ม “Buy now with 1-click” ซึ่งเป็นปุ่ม Call To Action ที่ Amazon เป็นคนคิดขึ้นมา และได้สร้างยอดขายหลายพันล้านดอลล่าร์ให้กับบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหตุผลที่ปุ่มนั้นทำงานได้ดีมาก ก็เพราะว่ามันส่งสัญญาณให้กับลูกค้าที่พร้อมจะซื้อสินค้าอยู่แล้วได้รับรู้ว่า การสั่งซื้อสินค้าจะเป็นเรื่องง่ายแค่กดปุ่มนี้
นี่คือความหมายของ Call To Action (CTA) แต่อย่างไรก็ตาม “คำกระตุ้นการตัดสินใจ” หรือ Call To Action ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบของการขายของเสมอไป คุณยังใช้ปุ่ม Call to Action กับปุ่มการสมัครรับจดหมายข่าว หรือ ปุ่มเพื่อพูดคุยหรือปุ่มโทรรับคำปรึกษาจากทีมงานก็ได้

2. Consumer-Friendly Colors
สีมีบทบาทสำสัญในแง่จิตวิทยาของมนุษย์เป็นอย่างมาก และจากผลการวิจัย พบว่ามากถึง 85% ของผู้บริโภคระบุว่าสี เป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ เว็บไซต์ที่เลือกใช้สีของภาพสินค้า สีของตัวหนังสือ หรือสีของเว็บไซต์ที่โดดเด่นสามารถช่วยกระตุ้น และส่งเสริมพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้มากขึ้น

3. Email Lead Capture and Remarketing
การเลือกใช้กลยุทธ์ Email Marketing อย่างเป็นระบบสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะการทำ Personalize Marketing หรือการตลาดที่เฉพาะเจาะจง โดยเลือกส่งบทความที่น่าสนใจ และโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าโดยเฉพาะ Email Marketing และการทำ Remaketing สามารถสร้างความเชื่อใจ และปิดการขายได้ไม่ยาก หลายๆธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์มักนิยมใช้กลยุทธ์ในการส่ง Email แบบอัตโนมัติไปหาลูกค้าที่หยิบสินค้าใส่ตะกร้า แต่ลืมที่จะ Check Out โดยอาจจะยื่นข้อเสนอ เป็นส่วนลดในเวลาที่จำกัด เพื่อกระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Remarketing ได้ที่นี่)
4. Frequent Testing
ทุกประสบการณ์ในการท่องเว็บไซต์ของลูกค้า ถือว่าเป็นประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ ธุรกิจจึงควรทดสอบประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการสั่งซื้อ สอบถาม หรือ ความเร็วในการโหลด พยายามปรับปรุงในสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีอยู่เสมอ ถึงแม้เราอาจจะยังไม่สามารถขายได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่ควรสร้างความประทับใจ เพื่อโอกาสที่ดีในคราวหน้า
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกคน ผู้บริโภคยุคใหม่เติบโตบนโทรศัพท์มือถือ จากผลวิจัยพบกว่ายอดขาย 33% เป็นยอดขายจากโทรศัพท์มือถือ และมากกว่า 50% ของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต หากเว็บไซต์ของคุณยังไม่ถูกออกแบบให้รับรองโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ว่าลูกค้าของคุณ ก็จะมองหาตัวเลือกอื่น ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของคุณก็เป็นได้

6. Post-Purchase Service
ความสัมพันธ์ของธุรกิจกับลูกค้า ไม่ควรสิ้นสุดลงหลังจากที่จบการขายเพียงเท่านั้น หลังจาก Check Out คุณสามารถส่งลูกค้าไปที่หน้า Landing Page เพื่อแนะนำสินค้าและบริการเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งวิธีการใช้งาน เงื่อนไขการรับประกัน หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจวิธีการใช้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความเชื่อใจ และส่งเสริมให้เกิดความจงรักภักดีของลูกค้ากับธุรกิจคุณ และยังสามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากได้สินค้าตัวอื่นเพิ่มเติมได้
7. Secure Checkout
ระบบความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเรื่องของการชำระเงิน คงไม่มีใคร อยากให้หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลทางการเงินของตัวเอง หลุดไปอยู่ในมือของ hacker ระบบชำระเงินที่ปลอดภัยถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในมากของเว็บไซต์ E-commerce เป็นอย่างมาก ลงทุนในขั้นตอนการชำระเงินที่สะดวกสบาย และปลอดภัย มี logo พันธมิตรด้านความปลอดภัยให้ลูกค้าเห็น เพื่อรับรองว่าลูกค้าจะได้รับการคุ้มครองอย่างจริงจัง จะสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการปิดการขายแบบอัตโนมัติได้ง่ายขึ้น
8. Targeted Landing Pages
คุณพยายามใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายเพื่อที่จะหาลูกค้าใหม่ โดยการส่งคนไปที่เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการคลิ๊กจาก Email หรือ เป็นการคลิ๊กจากโฆษณาบน Social Media แต่อย่าลืมที่จะส่งคนไปให้ถูก Landing Page ด้วย เพื่อจะทำให้การปิดการขายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น อาจจะฟังดูง่าย แต่หลายต่อหลายธุรกิจ ลืมที่จะส่งลูกค้าไปยังหน้าสินค้า หรือ หน้าบริการโดยตรง กลับส่งลูกค้าไปที่หน้าแรกของเว็บ แทนที่จะส่งไปหน้าสินค้าที่กำลังทำโปรโมชั่น ทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลาค้นหาสินค้า หรือบริการที่ต้องการซื้อ ไม่มีเหตุผลที่จะขัดขวางลูกค้า ถ้าเค้าสนใจในสินค้าและบริการขอบงคุณแล้ว
9. Usable Interface
เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จควรตอบสนองการใช้งานง่าย และปราศจากความยุ่งเหยิงที่อาจจะสร้างความสับสนให้กับลูกค้า ตำแหน่งของเมนู ตำแหน่งของปุ่มสั่งซื้อ กระบวนการ Check Out ขั้นตอนต่างๆ ควรจะเข้าใจง่าย ไม่ควรสร้างความยุ่งยากให้กับลูกค้า เพื่อประสบการณ์ที่ลื่นไหลในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ
จะเห็นได้ว่า กระบวนการระหว่างที่ลูกค้ารู้จักสินค้า เกิดความสนใจในสินค้า ไปจนถึงการสั่งซื้อสินค้านั้น อาจจะมีบางสิ่งบางที่ไม่ต่อเนื่องอย่างมารบกวนการตัดสินใจซื้อสินค้า และการปิดการขายได้ การสร้างและหมั่นปรับปรุง UX / UI ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอนั้นจะช่วยเพิ่มและกระตุ้นการตัดสินใจได้ (Conversion Rate) การติดตามผู้ที่ลืมสินค้าไว้ในตะกร้าหรือ Retargeting ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและคุ้มค่าที่จะลงทุนเวลาและพลังงานให้มากขึ้นเช่นกัน หากคุณกำลังอยากจะทำให้เว็บไซต์ของคุณเต็มไปด้วยศักยภาพในการสร้างยอดขาย สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่ครับ
CROSSOVER.LAB ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้คุณดำเนินธุรกิจของคุณได้อย่างราบรื่นและคล่องตัว ที่นี่ที่เดียวที่ช่วยคุณวางแผนในการก่อตั้งธุรกิจ เรารับสร้างแบรนด์ ออกแบบโลโก้ รับออกแบบเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์ที่เข้าใจลูกค้า เรายังช่วยคุณวางแผนการตลาดและวางกลยุทธ์ให้ธุรกิจของคุณเติบโตทันคู่แข่งของคุณในโลกออนไลน์และออฟไลน์ รับทำ PR หรือคิดแผนโฆษณาและเลือกใช้ Influencers ให้เหมาะกับแบรนด์คุณ ไปจนถึงวางแผนการทำ collaboration งาน Event เปิดตัวสินค้าหรือ Private Party ด้วยประสบการณ์ทำงานออกแบบและสร้างแบรนด์มากว่า 15 ปี